What Students Read
Read on to get your latest updates on Universities, Courses Offered, Student Visa Updates, and lots more!

ก่อนจะไปทำความรู้จักกับ IELTS และ TOEFL เรามาเข้าใจกันก่อนว่าการทดสอบภาษาอังกฤษนี้คืออะไรและทำไมถึงจำเป็นต้องทดสอบ
การทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษช่วยให้ทราบทักษะภาษาอังกฤษของผู้สมัครในการฟัง อ่าน เขียน และ พูด หากคุณเป็นนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อต่างประเทศหรือวางแผนที่จะทำงานและอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก การทดสอบเหล่านี้มีความสำคัญและจะช่วยให้คุณเข้าใจและพูดภาษาได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
การทดสอบภาษาอังกฤษมีความจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษา ทำงาน หรือ ย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ใบรับรองการทดสอบเป็นหลักฐานว่าผู้สมัครสามารถสื่อสารและเข้าใจภาษาอังกฤษอย่างเพียงพอสำหรับการเรียนและการดำเนินชีวิตในประเทศนั้นๆ
การทดสอบเป็นแบบทดสอบมาตรฐานในการวัดความรู้และทักษะต่างๆด้านภาษาอังกฤษสำหรับคนที่ไม่ได้มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ดังนั้นคุณต้องทำความเข้าใจตัวเลือกต่างๆที่เหมาะกับคุณก่อนทำการทดสอบ เช่น
เป็นการทดสอบภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยจะประเมินความสามารถทางภาษา อังกฤษของผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาที่ต้องการศึกษาต่อหรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ในการสื่อสาร
จะประเมินทักษะภาษาอังกฤษของคุณว่าตรงตามความสามารถทางวิชาการระดับนานาชาติหรือไม่ การทดสอบนี้เหมาะที่สุดสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า
จะประเมินทักษะภาษาอังกฤษของคุณว่าเพียงพอสำหรับการทำงานและอยู่อาศัยในประเทศนั้นๆได้หรือไม่ โดยเฉพาะผู้ที่จะย้ายถิ่นฐานไปยังออสเตรเลีย แคนาดา และสหราชอาณาจักร ต้องทดสอบในประเภทนี้
IELTS เป็นหนึ่งในการทดสอบภาษาอังกฤษที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกโดยมีองค์กรมากกว่า 10,000 แห่งทั้ง สถาบันการศึกษา บริษัท หน่วยงานวิชาชีพและองค์กรของรัฐทั่วสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ยุโรปและอีก 140 ประเทศทั่วโลก ให้การยอมรับการทดสอบนี้ถือเป็นมาตรฐานสำหรับการทดสอบภาษาอังกฤษโดยทดสอบทักษะการอ่าน เขียน ฟัง และ พูด มีการทดสอบตลอดทั้งปี โดยมี 1,600 ศูนย์สอบในกว่า 140 ประเทศ ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับการยอมรับทั้งในด้านวิชาการ และ การย้ายถิ่นฐาน
การสอบสามารถทำได้ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ การทดสอบประเภท Academic และ General ในด้านการฟังและพูดจะเหมือนกัน แต่การเขียนและอ่านจะต่างกันเล็กน้อย
IELTS Indicator คือแบบทดสอบภาษาอังกฤษที่เหมือนกับข้อสอบ IELTS แต่ถูกพัฒนามาให้อยู่ในระบบออนไลน์ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่า จะจัดขึ้นสัปดาห์ละครั้งตามเวลาที่กำหนด และสอบทักษะภาษาเหมือนปกติ
ผู้สมัครจะได้รับผลการสอบภายใน 7 วัน หลังจากสอบเสร็จ
แต่ทั้งนี้ผู้สมัครควรตรวจสอบว่ามหาวิทยาลัยที่จะเข้าศึกษาต่อนั้นรองรับ IELTS Indicator หรือไม่
เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ศูนย์สอบ IELTS บางแห่งจะเสนอการสอบพูดผ่านวิดีโอคอลที่มีความละเอียดสูง ผู้เข้าสอบจะต้องทำการทดสอบการพูดที่ศูนย์ IELTS อย่างเป็นทางการ
รูปแบบการสอบ IELTS ประกอบด้วย 4 ส่วน
การฟัง
จะมีการเปิดเสียงของเจ้าของภาษาอังกฤษ 4 แบบและผู้สมัครจะต้องตอบคำถาม ซึ่งจะมีคำถามประเภทต่างๆทั้งหมด 40 คำถามรวมถึงคำถามแบบปรนัย plan/map / แผนภาพและการเติมประโยค
การอ่าน
ประกอบด้วยคำถาม 40 ข้อ ซึ่งออกแบบมาเพื่อทดสอบทักษะการอ่านที่หลากหลายรวมถึงการอ่านเพื่อหาสาระสำคัญ จับใจความ ทำความเข้าใจความคิดเห็นทัศนคติ และจุดประสงค์ของนักเขียน บางส่วนนำมาจากหนังสือ วารสาร นิตยสาร และหนังสือพิมพ์
การเขียนเชิงวิชาการ
หัวข้อในส่วนนี้จะแสดงถึงทักษะของผู้สมัครที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี หรือสำหรับผู้ที่ต้องการลงทะเบียนเรียนสาขาวิชาชีพ
การเขียนทั่วไป
หัวข้อในส่วนนี้เป็นการเขียนในลักษณะทั่วไป คาดว่าจะมีตั้งแต่ส่วนบุคคล กึ่งทางการ และ ทางการ
การพูด
จะประเมินการใช้ภาษาพูดของผู้สมัครมี 3 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1 ผู้ตรวจสอบตั้งคำถามเกี่ยวกับผู้สมัครรวมทั้งครอบครัวการงานการศึกษาและความสนใจ
ส่วนที่ 2 ผู้สมัครจะได้รับการ์ดที่มีหัวข้อเฉพาะ โดยให้เวลาเตรียมตัว 1 นาที เพื่อพูดในเวลา 2 นาที
ส่วนที่ 3 เป็นช่วงต่อของส่วนที่ 2 ผู้สมัครจะถูกถามคำถามเกี่ยวกับหัวข้อในส่วนที่ 2 และใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที
ระยะเวลาทดสอบ 2 ชั่วโมง 45 นาที แบ่งเป็น
การให้คะแนน
คะแนนแต่ละส่วนจะถูกทำเครื่องหมายแยกกันในระดับ 0-9 และค่าเฉลี่ยของทั้ง 4 ส่วนจะถูกนำมารวมเป็นคะแนนสุดท้าย มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะกำหนดระดับคะแนนต่ำสุดของผลสอบเพื่อการรับเข้าเรียน
อายุของผลสอบ IELTS
ใบรับรองผลสอบมีอายุ 2 ปี
การยอมรับผลสอบ
IELTS ได้รับการยอมรับจากสถาบันศึกษามากกว่า 10,000 แห่งในกว่า 140 ประเทศ รวมถึงเป็นที่ยอมรับในกรณีการยื่นทำงานและย้ายถิ่นฐานในออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
ค่าธรรมเนียมในการสอบ
ค่าธรรมเนียมแบ่งตามประเภทการสอบ ดังนี้
1. IELTS Academic/General 7,100 บาท
2. IELTS for UKVI 7,710 บาท
3. IELTS Life Skills (A1 & B1) 5,800 บาท
เป็นแบบทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษของผู้สอบที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก แต่มีความประสงค์จะไปศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
การสอบ TOEFL จะให้คะแนนโดยใช้ระบบที่เป็นกลาง มีผู้ประเมินผลการทดสอบหลายคนซึ่งไม่มีใครทราบรายละเอียดของผู้เข้าสอบ ดังนั้นผู้เข้าสอบมั่นใจได้ว่าเป็นระบบที่ให้คะแนนยุติธรรม นอกจากนี้ผู้สมัครสอบเกือบ 90% ยังได้รับเลือกเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่เลือกไว้ในลำดับที่ 1 หรือ 2
ลักษณะการสอบ
TOEFL สามารถแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ ดังนี้
รูปแบบการทดสอบ
การสอบ TOEFL มี 4 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้
ส่วนนี้จะประเมินความสามารถของผู้สมัครในการเข้าใจข้อความวิชาการขั้นพื้นฐานข้อความที่ตัดตอนมาจากการ บรรยายหนังสือเรียนและบทความของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย 3-4 ย่อหน้าซึ่งมีจำนวนมากถึง 700 คำ
ส่วนการพูดจะประเมินความสามารถของผู้สมัครในการแสดงความคิดเห็นในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งอย่างชัดเจน ในเวลา 17 นาที
ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ งานเขียนแบบบูรณาการและงานเขียนอิสระ งานเขียนแบบบูรณาการเกี่ยวข้องกับการอ่านข้อความ 200-220 คำ ภายใน 3 นาที และมีเวลา 20 นาทีในการเขียนเรียงความโดยใช้ข้อมูลที่ได้อ่าน สำหรับงานเขียนอิสระ จะได้เวลา 30 นาที เพื่อเขียนเรียงความให้ได้ 300-350 คำ
ระยะเวลา
TOEFL PBT 3 ชั่วโมง
TOEFL iBT 4 ชั่วโมง
การให้คะแนน
อายุของผลสอบ TOEFL
สามารถใช้ได้เป็นเวลา 2 ปีนับจากวันที่ประกาศผล
การยอมรับ
ค่าธรรมเนียมในการสอบ
ค่าธรรมเนียมการสอบที่ประเทศไทย US$ 215.-
ไม่แน่ใจว่า IELTS หรือ TOEFL ที่เหมาะสำหรับคุณ ติดต่อเราได้ที่ AECC Global
Your Passport to International Education! Sign Up for a Free Consultation session